ห้องครัวส่วนใหญ่จะอยู่หลังบ้านซึ่งเป็นจุดอับลม จึงควรมีหน้าต่างหรือช่องเปิดมากกว่า 1 จุด เพื่อให้ลมพัดเข้ามาและผ่านออกไปได้ ถ้าเป็นครัวที่มีการใช้งานหนัก ช่องเปิดอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ควรติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หรือเครื่องดูดควันเพื่อช่วยระบายอากาศจากภายในครัวไปสู่ภายนอก โดยเครื่องดูดควันมีทั้งแบบที่ระบายควันออกสู่ภายนอกและแบบที่หมุนเวียนอากาศในเครื่อง ซึ่งแบบหลังจะใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อยกว่า เครื่องดูดควันควรมีประสิทธิภาพในการดูดควันประมาณ 300 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที
เครื่องดูดควันจะช่วยเรื่องการไหลเวียนอากาศให้สดชื่นขึ้น เมื่อไม่มีกลิ่นมารบกวนแล้ว จะทำให้คุณสนุกเพลิดเพลินกับการประกอบอาหารอย่างเต็มที่ สำหรับรูปแบบของเครื่องดูดควัน ควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะของห้องครัวเช่นกัน เช่น หากมีพื้นที่บริเวณจำกัดควรเลือกเครื่องดูดควันแบบติดตั้งตามจุดที่ปรุงอาหาร หากเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ควรเลือกติดตั้งเป็นแบบปล่องดูดควันที่มีกำลังแรงดูดสูงๆ โดยต่อท่อระบายควันออกนอกบ้าน นอกจากนี้แล้วห้องครัวควรมีหน้าต่างและติดพัดลมระบายอากาศเพิ่มเติมด้วย เพื่อไม่ให้มีกลิ่นตกค้างและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากกิจกรรมงานครัวต่างๆ เนื่องจากห้องครัวที่ดีจะมีแค่ความสวยงามอย่างเดียวนั้นคงยังไม่เพียงพอ ประการสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือความสะอาดถูกสุขลักษณะต้องมาก่อน
ยิ่งครอบครัวที่ชอบประกอบอาหารรับประทานเองที่บ้าน นอกจากทำความสะอาดพื้นที่บริเวณนั้นแล้ว ควรติดตั้งเครื่องดูดควันเพื่อกำจัดกลิ่นที่เกิดจากการประกอบอาหารไม่ให้กระจายเข้าภายในบ้านด้วย วิธีที่จะสร้างสุขอนามัยในห้องครัวอันดับต้นๆ คือ การมีช่องเปิด ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่าง บานเกล็ดไม้ บล็อกแก้ว หรือกระเบื้องหลังคาแบบโปร่งแสง เพื่อให้มีแสงสว่างเพียงพอ แสงแดดที่ส่องเข้ามาจะช่วยฆ่าเชื้อโรค และทำให้ครัวแห้งสะอาด นอกจากนี้ การวางตำแหน่งห้องครัวให้ได้รับแดดในช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน จะช่วยป้องกันไม่ให้บ้านร้อนอีกด้วย