เนื่องจากห้องพักในคอนโดมิเนียมมักจะมีขนาดพื้นที่จำกัด ดังนั้นการออกแบบพื้นที่ตู้เก็บของและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆด้วยการทำ Built-in ก็นับว่าเป็นการบริหารพื้นที่ที่คุ้มค่า โดยมากแล้วตัวโครงสร้าง Built-in มักจะใช้เป็นไม้ยางพารา หรือไม่ก็พวกตระกูลไม้อัดทั้งหลาย เป็นต้น แต่เนื่องจากไม้ยางพารามีราคาแพง ปัจจุบันจึงนิยมใช้ประเภท MDF ที่มีคุณสมบัติที่ทนทานและทำผิวปิดได้สวยงามกว่าไม้อัดประเภทอื่น ส่วนเรื่องวัสดุปิดผิวต่างๆที่เป็นรูปลักษณ์ผิวพรรณของเฟอร์นิเจอร์นั้นโครงการประเภทคอนโดมักจะนิยมใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาเช่น ลามิเนต วีเนียร์ และไม้ ทั้งนี้ก็เพราะง่ายต่อการติดตั้งและการขนส่งโดยระบบลิฟท์ อีกทั้งยังเป็นการลดน้ำหนักของโครงการโดยรวมอีกด้วย
เนื่องจากความสะดวกสบายกลายมาเป็นยุทธวิธีหนึ่งในการทำการตลาดของคอนโดมิเนียม ดังนั้นคอนโดในไทยที่เราเห็นส่วนมากจึงเป็นแบบคอนโดพร้อมตกแต่ง แต่ก็มีเจ้าของห้องอีกไม่น้อยที่ต้องการใส่ไอเดียของตนเองลงไปในการตกแต่งห้องด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวง่ายๆ ไปจนถึงการว่าจ้างอินทีเรียดีไซเนอร์มาออกแบบให้แบบครบวงจร ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการออกแบบภายในไม่ว่าที่ใดก็ตามมักจะเริ่มต้นด้วยการสังเกตและวิเคราะห์ที่ตั้งของโครงการ ไอเดียพื้นฐานก็คือ พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออกแล้วอ้อมผ่านทิศใต้มาตกในทิศตะวันตก หมายความว่าในช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงร้อนที่สุดของวัน แสงแดดจะส่องมาจากฝั่งทิศตะวันตกยาวนานที่สุด ส่งผลให้ห้องพักในฝั่งนี้เป็นที่นิยมน้อยที่สุดนั่นเอง
สำหรับพื้นที่ใช้สอยหลักๆภายในห้องพักคอนโดนั้นมักจะประกอบด้วย ส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร ส่วนครัว ห้องน้ำ ห้องนอน และส่วนระเบียง ปกติแล้วสามส่วนแรกมักจะเป็นพื้นที่แบบเปิดโล่งที่เชื่อมต่อกันเป็นห้องเดียว และเป็นพื้นที่ที่เป็นใจความสำคัญที่สุดของห้องพักด้วย http://www.bkkcitismart.comการออกแบบห้องพักให้เหมาะกับการใช้งานย่อมมาจากพฤติกรรมและความชอบของเจ้าของห้องเป็นหลัก ถ้าเจ้าของห้องเป็นชายโสดวัยทำงาน ชอบวาดรูปและเล่นกีตาร์ การออกแบบในห้องพักก็ควรจะมีความลำลองสไตล์หนุ่มโสด ในส่วนนั่งเล่นก็อาจจะต้องมีพื้นที่เตรียมสำหรับจัดวางกีตาร์และตู้เก็บอุปกรณ์วาดรูปต่างๆ ส่วนระเบียงก็อาจจะออกแบบให้เป็นพื้นที่หลักในการวาดรูปด้วยก็ได้