รอยเตอร์ส รายงานว่า สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งมีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก อนุมัติข้อตกลงเพื่อยุติวิกฤตทางการเมืองแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 81 ต่อ 18 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ส่งผลให้เกิดภาวะการปิดหน่วยงานราชการ (กอฟเวิร์นเมนท์ ชัตดาวน์) และทำให้ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 1 ของโลก เสี่ยงผิดชำระหนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้สถานะการณ์เศรษฐกิจโลกอยู่ในสภาวะปั่นป่วน
ขณะที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรคครีพลับลิกันครองเสียงข้างมาก คาดว่าจะลงคะแนนเสียงเพื่อรับข้อตกลงดังกล่าวในช่วงกลางคืนของวันที่ 16 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ ภายหลังกจากที่จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรยกเลิกความพยายามที่จะใช้ข้อแลกเปลี่ยนอนุมัติมาตรการ รายจ่ายกับกฎหมายประกันสุขภาพของประธานาธิบดีบารัก โอบามา หรือที่รู้จักในชื่อโอบามาแคร์
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าว เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากจะอนุมัติให้รัฐบาลสหรัฐเปิดหน่วยงานได้จนถึงวันที่ 15 ม.ค. ปีหน้า และขยายเพดานหนี้ออกไปจนถึงวันที่ 7 ก.พ. ปีหน้าเท่านั้น
ด้าน ประธานาธิบดีโอบามาระบุระหว่างแถลงการณ์ว่า ทันทีที่ข้อตกลงซึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะลงนามทันที เพื่อเปิดหน่วยงายรัฐบาล และเพื่อทำลายความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในกลุ่มธุรกิจและครอบครัวต่างๆ
ทั้งนี้ หลังจากมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าสภาคองเกรสจะผ่านข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจะไม่ทำให้รัฐบาลสหรัฐผิดชำระหนี้นั้น ได้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐปิดตลาดเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ดีดตัวเพิ่มขึ้นใกล้ระดับสูงสุด
แหล่งข่าวจาก posttoday…